ถอดบทเรียน "Facilitation" สู่การสร้างห้องเรียนแห่งความสุข:
มุมมองจากคุณครูภาคสนาม
บทความนี้นำเสนอประสบการณ์จริงจากคุณครูที่เข้าร่วมวงเสวนาออนไลน์ “The Light Up Talk ล้อมวงคุย” (ภาคเหนือ) EP.5 [Why Facilitation?] จัดโดย Sila5 School ซึ่งคุณครูได้ร่วมแบ่งปันถึงประโยชน์ของ “Facilitation” หรือ “ฟา” และวิธีการนำไปประยุกต์ใช้ในห้องเรียน เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ดี เสริมสร้างความสัมพันธ์ และพัฒนาศักยภาพของนักเรียนอย่างยั่งยืน
ทำความรู้จัก "Facilitation" (ฟา)
"ฟา" คือ ทักษะของกระบวนกรในการดำเนินกิจกรรมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกระบวนกรจะไม่ใช่ผู้คุมเกมหรือชี้นำ แต่จะเป็น “ผู้อำนวยความสะดวก” คอย สนับสนุนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ คิดวิเคราะห์ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
หัวใจสำคัญของ “ฟา” คือการสร้าง 3C ประกอบด้วย:
ㆍConnect (เชื่อมโยง): สร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน ผู้เรียนกับครู และผู้เรียนกับเนื้อหา
ㆍContext (บริบท): สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง ปลอดภัย และเอื้อต่อการเรียนรู้
ㆍContent (เนื้อหา): สร้างสรรค์เนื้อหาที่น่าสนใจ สอดคล้องกับชีวิดจริง และตอบสนองความต้องการของผู้เรียน
ผลลัพธ์จากการใช้ "ฟา" ในห้องเรียน : มุมมองจากคุณครูผู้เข้าร่วมเสวนา
บทความนี้ได้สรุปประเด็นที่น่าสนใจจากการแบ่งปันประสบการณ์จริงของคุณครูที่ได้นำ “ฟา” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ทักษะการสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี" ไปปรับใช้ในห้องเรียน ดังนี้
1.คุณครูถาวร ศรีทุม (ครูฮอน) โรงเรียนวัดแหลมแค
ㆍปัญหา: เดิมทีครูฮอนเป็นผู้ที่มีความดาดหวังในตัวนักเรียนค่อนข้างสูง ใช้น้ำเสียงดุ และไม่ค่อยสร้างบรรยากาศในห้องเรียน ทำให้นักเรียนไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าถามคำถาม และไม่กล้าเข้าหา
ㆍวิธีการแก้ปัญหา: หลังจากเรียนรู้ "ฟา" ครูฮอนได้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดและพฤติกรรมของตนเอง โดยหันมา ใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยน พูดคุยกับนักเรียมด้วยเหตุผล สอบถามถึงปัญหาของเด็กแต่ละคนอย่างใส่ใจ และให้กำลังใจมากขึ้น
ㆍผลลัพธ์: นักเรียนกล้าแสดงออกมากขึ้น กล้าถามคำถาม และกล้าเข้าหาครูมากขึ้น ช่วยลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศการเรียนที่ดีขึ้น
2.คุณครูพัฒนีย์ จันทอง (ครูใบตอง) โรงเรียนบ้านแพ้ว (ตี่ตง)
ㆍปัญหา: พบว่านักเรียนบางคนไม่กล้าแสดงออก ไม่ค่อยตอบคำถาม และไม่ค่อยสื่อสารกับทั้งครูและเพื่อน ทำให้ครูใบตองรู้สึกไม่มั่นใจในตนเอง
ㆍวิธีการแก้ปัญหา: ครูใบตองได้นำ หลักการสร้างพื้นที่ปลอดภัยมาใช้ โดย พูดคุยกับนักเรียนในเรื่องที่เขาสนใจ เช่น การ์ตูน หรือตุ๊กตา เพื่อสร้างความคุ้นเคย และเปิดโอกาสให้เขารู้สึกผ่อนคลายที่จะสื่อสาร
ผลลัพธ์: นักเรียนกล้าแสดงออกมากขึ้น กล้าพูดคุย และกล้าเข้าหาครูมากขึ้น นอกจากนี้ ครูใบตองยังพบว่า การนำเทคโนโลยี เช่น การสุ่มนักเรียนตอบคำถามด้วยโปรแกรม ช่วยลดความกดดัน และสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนานขึ้น
3.คุณครูเสกสันต์ ณ.เชียงใหม่ (ครูเสก) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 61
ㆍปัญหา: โรงเรียนของครูเสกเป็นโรงเรียนประจำ นักเรียนส่วนใหญ่เป็นชนเผ่า สื่อสารกันไม่ค่อยเข้าใจ และมีปัญหาเรื่องยาเสพติด ทำให้ความเครียดสะสม จนเกือบเป็นโรคซึมเศร้า
ㆍวิธีการแก้ปัญหา: หลังจากเรียนรู้ "ฟา" ครูเสกได้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดและพฤติกรรมของตนเอง โดยหันมา สื่อสารเชิงบวกกับนักเรียนมากขึ้น ให้กำลังใจ และชี้ให้เห็นถึงผลดีของการทำความดี เช่น การให้ทุนการศึกษา หรือการยกย่องในกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ ยังนำหลักการตั้งคำถามเชิงบวก หลีกเลี่ยงการกล่าวโทษ มาใช้ เช่น กรณีที่นักเรียนสูบบุหรี่
ㆍผลลัพธ์: นักเรียนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมมากขึ้น ความรุนแรงลดลง และคุณครูเองก็มีความสุขในการทำงานมากขึ้น
4.คุณครูมุขดา สุพร โรงเรียนบ้านโคกสว่าง สพป.อุดรธานี เขต2
ㆍปัญหา: คุณครูมุขดามีนิสัยเคร่งครัด จริงจังกับงาน และชอบการออกคำสั่ง ทำให้นักเรียมรู้สึกเกร็ง ไม่ค่อยกล้าเข้าหา รวมถึงมีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องกันในห้องเรียน
ㆍวิธีการแก้ปัญหา: ครูมุขดาได้นำ "ฟา" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ทักษะการสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี" และ "การสร้างพื้นที่ปลอดภัย" มาปรับใช้ เช่น การพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ให้กำลังใจ ใช้คำพูดเชิงบาก และสอนให้เด็กๆ รู้จักตั้งคำถาม สังเกต และทำความเข้าใจพฤติกรรมของเพื่อน แทนการด่วนตัดสิน
ㆍผลลัพธ์: บรรยากาศในห้องเรียนดีขึ้น นักเรียนกล้าแสดงออก กล้าถาม และกล้าเข้าหาครูมากขึ้น ปัญหาการฟ้องร้องลดลง ความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนดีขึ้น ส่วนตัวครูมุขดาเองก็รู้สึกผ่อนคลาย ใจเย็น และมีความสุขในการสอนมากขึ้น
5.คุณครูอภิญญา กุลนรัตน์ โรงเรียนบ้านโคกสว่าง สพป.อุดรธานี เขต2
ㆍปัญหา: รู้สึกเครียดจากการทำงาน และคาดหวังกับตัวนักเรียนมากเกินไป
ㆍวิธีการแก้ปัญหา: ใช้ "ทักษะการตั้งคำถาม" กับตนเอง เพื่อทบทวนความรู้สึกนึกคิด และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมถึง ฝึกสื่อสารกับนักเรียนด้วยทักษะที่เรียนรู้จาก "ฟา" เช่น การสร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวก
ㆍผลลัพธ์: รู้สึกมีความสุข และมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น ส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป: จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวงเสวนา จะเห็นได้ว่า “ฟา” สามารถ “เปลี่ยนห้องเรียนให้เป็นพื้นที่แห่งความสุข” ได้จริง โดยเริ่มต้นจาก การเปลี่ยนแปลงที่ตัวครู เพื่อส่งต่อสิ่งดีๆ สู่เด็กๆ นำไปสู่ การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ดี เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน และระหว่างนักเรียนด้วยกัน ตลอดจน พัฒนาศักยภาพของนักเรียนให้เติบโตเป็น “เด็กเก่ง กล้า และดี” ได้อย่างยั่งยืน
บทความที่เกี่ยวข้อง
Facilitation สู่การสร้างห้องเรียนแห่งความสุข: มุมมองจากคุณครูภาคสนาม:
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2d4
ครูเสกสันต์ ณ.เชียงใหม่ จากครูดุสู่ครูใจดี : เส้นทางการสร้างห้องเรียนแห่งความสุข
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2e4
สอนเด็กให้ทำงานเป็นทีมด้วยผู้นำ 4 ทิศ: จากความเงียบ...สู่พลังแห่งการเรียนรู้
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64x264
ครูถาวร ศรีทุม จากความคาดหวัง สู่ความเข้าใจ : ความสุขของครูที่นักเรียนกล้าเข้าหา
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2f4
ครูสมหทัย แคว้นไธสง เปิดประตูสู่ความเข้าใจ : การใช้การฟังเชิงลึกเพื่อเปลี่ยนแปลงห้องเรียน
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64x274
ติดตามข่าวสาร คอร์สอบรมต่างๆ ทาง FB โครงการ : https://www.facebook.com/sila5schoolproject
ข้อมูลโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพฯ : https://www.sila5.com/school/
10 พฤษภาคม 2568
20 เมษายน 2568
10 เมษายน 2568
30 มีนาคม 2568