ถ้าถือสา...ก็เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ถือสา...ก็เป็นลมเป็นแล้ง

7 กรกฎาคม 2567
  •    1,295

คำพังเพยที่แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนในการเข้าสังคมและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง

ถ้าถือสา หมายถึง การใส่ใจในเรื่องเล็กน้อย การเก็บมาคิดมาก หรือโกรธเคืองง่าย

ก็เป็นเรื่องเป็นราว หมายถึง สถานการณ์จะบานปลาย กลายเป็นเรื่องใหญ่โต อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง

ที่รุนแรงขึ้น

ไม่ถือสา หมายถึง การให้อภัย การใส่ใจในเรื่องเล็กน้อย หรือการปล่อยวาง

ก็เป็นลมเป็นแล้ง หมายถึง สถานการณ์จะเงียบเหงา ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรืออาจหมายถึงการปล่อย

ให้ผู้อื่นได้ใจ

 

คำพังเพยนี้ต้องการสื่อให้เห็นว่า ในการเข้าสังคมนั้น การรู้จักให้อภัย การปล่อยวาง และการไม่ถือสาเป็นเรื่อง

เล็กน้อยนั้นสำคัญมาก เพราะหากเราถือสาเรื่องเล็กน้อย ก็อาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่ใหญ่โตได้ ในขณะเดียวกัน

การไม่ถือสาจนเกินไปก็อาจทำให้ผู้อื่นไม่เคารพ หรือไม่ให้ความสำคัญกับเราได้เช่นกัน

 

การนำไปใช้ในชีวิตจริง

การแก้ไขปัญหา เมื่อเกิดความขัดแย้ง การไม่ถือสาอาจช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้ แต่ก็ต้องพิจารณา

ถึงความเหมาะสมของสถานกรณ์ด้วย

การสร้างความสัมพันธ์ การให้อภัยและการปล่อยวาง จะช่วยให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นมากขึ้น

การรักษาสุขภาพจิต การไม่ถือสาเรื่องเล็กน้อย จะช่วยลดความเครียด และทำให้เรามีความสุขมากขึ้น

 

สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 ได้เป็นอย่างดี เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความเมตตา

กรุณา และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

 

การนำไปประยุกต์ใช้ในโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5

1. การสอนให้นักเรียนรู้จักให้อภัย

กิจกรรม จัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ เล่นเกมที่ต้องร่วมมือกัน แล้วสร้างสถานการณ์ให้เกิดความขัดแขเงเล็กน้อย

จากนั้นให้เด็ก ๆ ได้พูดคุยกันและหาทางออกร่วมกันโดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้อภัย

การสอน สอนให้นักเรียนเข้าใจว่าการใหอภัยไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการปลดปล่อยตัวเองจากความโกรธแค้น

และเป้นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีกว่า

2. การฝึกให้เด็กใจเย็น

กิจกรรม สอนเทคนิคการหายใจลึก ๆ หรือการทำสมาธิ เพื่อช่วยให้นักเรียนสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้

เมื่อเกิดความไม่พอใจ

การสอน อธิบายให้เด็กเข้าใจว่า การโกรธเคืองจะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจ และการใจเย็นจะช่วยให้เรา

แก้ไขปัญาได้อย่างมีสติ

3. การส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกัน

กิจกรรม จัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น เช่น การแบ่งกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกัน

หรือการเล่าเรื่องราวของตนเองให้เพื่อนฟัง

การสอน สอนให้เด็ก ๆ เห็นคุณค่าในความแตกต่างของแต่ละดบุคคล และเรียนรู้ที่จะเคารพ

ความคิดเห็นของผู้อื่น

4. การสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้

การสร้างบรรยากาศ สร้างบรรยากาศในห้องเรียนที่อบอุ่น เป็นกันเอง และเป็ดโอกาสให้นักเรียนได้เสดง

ความคิดเห็นอย่างอิสระ

 

ตัวอย่างสถานการณ์ที่นำไปประยุกต์ใช้

สถานการณ์นักเรียนสองคนทะเลาะกันเรื่องของเล่น

ครูอาจจะเข้าไปพูดคุยกันนักเรียนทั้งสองคน และอธิบายให้ฟังว่า การถือสาเรื่องเล็กน้อยจะทำให้

เกิดเรื่องใหญ่โตได้ แต่ถ้าให้อภัยกัน ก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม

สถานการณ์ นักเรียนคนหนึ่งถูกเพื่อนล้อเล่น

ครูอาจจะจัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ร่วมกันคิดว่า การถูกเพื่อนล้อแล้วรู้สึกอย่างไร และจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร

โดยเน้นย้ำว่า การให้อภัยและไม่ใส่ใจกับคำพูดที่ไม่ดี จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น

 

เป้าหมายสูงสุดของโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5

คือการปลูกฝังให้นักเรียนเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

การนำคำพังเพยนี้มาประยุกต์ใช้ จะช่วยเสริมสร้างให้โครงการบรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

 

 

#7กิจวัตรความดี #ห้องเรียนแห่งความสุข #เครื่องมือพัฒนานักเรียน #โรงเรียนรักษาศีล5 #design thinking #Facilitation


  •    1,295