ซึ่ง พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือน พ.ย.นี้หลายโรงเรียนเริ่มทยอยเปิดเทอม ทำให้เด็กวัยเรียนและกลุ่มเด็กที่อยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องได้รับการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ
เนื่องจากเด็กมีอัตราการหายใจเร็วกว่าผู้ใหญ่ และปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้ร่างกายได้รับมลพิษมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสมรรถนะของปอดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางระบบประสาทและความสามารถทางปัญญาของเด็ก โดยขอความร่วมมือโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทำความสะอาดพื้นที่ก่อนเปิดเทอมและจัดทำห้องปลอดฝุ่น เพื่อช่วยให้เด็กได้รับอากาศที่สะอาด
โดยได้เสนอแนะวิธีกำจัดฝุ่นในโรงเรียนดังต่อไปนี้
นอกจากนี้เด็กนักเรียนที่ป่วยด้วยโรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ หรือหอบหืด ควรให้อยู่ภายในอาคารหรือห้องปลอดฝุ่น และต้องได้รับการดูแลจากคุณครูอย่างใกล้ชิด และช่วงที่ประสบปัญหาฝุ่น PM2.5 โรงเรียนควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเข้าแถวหน้าเสาธง การออกกำลังกายกลางแจ้ง
งดกิจกรรมที่ก่อให้เกิด PM 2.5 โดยขอความร่วมมือผู้ปกครองจอดรถรับ-ส่งนอกสถานศึกษา หากจำเป็นต้องนำรถเข้ามาจอดให้ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ ขอความร่วมมือร้านค้าแผงลอย ปิ้งย่างโดยใช้เตาไร้ควัน และปลูกต้นไม้บริเวณโรงเรียนหรือจัดสวนแนวตั้ง เพื่อดักฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ และที่สำคัญคุณครูควรสื่อสารข้อมูลสถานการณ์มลพิษทางอากาศและวิธีการป้องกันตนเองแก่นักเรียนอยู่เสมอ
รักลูก https://www.rakluke.com/ /ที่มา ThaiPBS
#โครงการโรงเรียนรักษาศีล5เชิงคุณภาพ
#ครอบครัวอบอุ่น #นวัตกรรม7กิจวัตรความดี #คิดดีทำดีพูดดี #CriticalThinking
โพสต์เมื่อ 6 มีนาคม 2563 15:00 น.