กรมอนามัยแนะโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็ก ทำความสะอาดห้องเรียนกำจัดฝุ่นก่อนเปิดเทอม

9 มีนาคม 2563


ช่วงปลายปี และต้นปี หลังจากหมดฝนแล้วก็เข้าสู่ช่วงหน้าหนาวและหน้าแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยเผชิญปัญหาฝุ่นละออง และฝุ่น PM 2.5


ซึ่ง พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือน พ.ย.นี้หลายโรงเรียนเริ่มทยอยเปิดเทอม ทำให้เด็กวัยเรียนและกลุ่มเด็กที่อยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องได้รับการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ

เนื่องจากเด็กมีอัตราการหายใจเร็วกว่าผู้ใหญ่ และปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้ร่างกายได้รับมลพิษมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสมรรถนะของปอดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางระบบประสาทและความสามารถทางปัญญาของเด็ก โดยขอความร่วมมือโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทำความสะอาดพื้นที่ก่อนเปิดเทอมและจัดทำห้องปลอดฝุ่น เพื่อช่วยให้เด็กได้รับอากาศที่สะอาด

 


โดยได้เสนอแนะวิธีกำจัดฝุ่นในโรงเรียนดังต่อไปนี้ 

  • เลือกห้องที่ห่างจากแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง เช่น ถนน ลานจอดรถ พื้นที่ก่อสร้างและไม่มีกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดมลพิษภายในห้อง เช่น จุดเทียน จุดธูป นอกจากนี้ควรเป็นห้องที่มีประตูหรือหน้าต่างน้อยที่สุด และหลีกเลี่ยงอุปกรณ์ที่เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละอองภายในห้อง เช่น พรม หนังสือ ตุ๊กตา เป็นต้น
  • ลดฝุ่น โดยการปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด และปิดช่องหรือรูอากาศด้วยวัสดุปิดผนึก เช่น ซีลประตู หรือเทปปิดร่องประตูหรือหน้าต่าง เป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศภายนอกเข้าไปในห้อง
  • ทำความสะอาดห้องด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดหรือถู ไม่ควรใช้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่น เพราะจะทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย เปิดพัดลมหมุนเวียนอากาศภายในห้อง สำหรับห้องที่มีเครื่องปรับอากาศควรตรวจสอบทำความสะอาดหน้ากากเครื่องปรับอากาศและแผ่นกรองอากาศทุกเดือน ล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง และอาจเพิ่มประสิทธิภาพการลดฝุ่นในห้อง เช่น การใช้เครื่องฟอกอากาศ ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวควรมีขนาดที่เหมาะสมกับห้อง


นอกจากนี้เด็กนักเรียนที่ป่วยด้วยโรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ หรือหอบหืด ควรให้อยู่ภายในอาคารหรือห้องปลอดฝุ่น และต้องได้รับการดูแลจากคุณครูอย่างใกล้ชิด และช่วงที่ประสบปัญหาฝุ่น PM2.5 โรงเรียนควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเข้าแถวหน้าเสาธง การออกกำลังกายกลางแจ้ง

งดกิจกรรมที่ก่อให้เกิด PM 2.5 โดยขอความร่วมมือผู้ปกครองจอดรถรับ-ส่งนอกสถานศึกษา หากจำเป็นต้องนำรถเข้ามาจอดให้ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ ขอความร่วมมือร้านค้าแผงลอย ปิ้งย่างโดยใช้เตาไร้ควัน และปลูกต้นไม้บริเวณโรงเรียนหรือจัดสวนแนวตั้ง เพื่อดักฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ และที่สำคัญคุณครูควรสื่อสารข้อมูลสถานการณ์มลพิษทางอากาศและวิธีการป้องกันตนเองแก่นักเรียนอยู่เสมอ


รักลูก https://www.rakluke.com/ /ที่มา ThaiPBS 

#โครงการโรงเรียนรักษาศีล5เชิงคุณภาพ
#ครอบครัวอบอุ่น #นวัตกรรม7กิจวัตรความดี #คิดดีทำดีพูดดี #CriticalThinking


โพสต์เมื่อ 6 มีนาคม 2563 15:00 น.


ข่าวอื่นๆ


ดูข่าวทั้งหมด