อะไรคือหลักในการใช้ตรวจสอบหรือตัวเชคว่าสิ่งที่เรากำลังตอบสนองอยู่นี้ หรือ การกระทำที่เราตอบสนองไปแล้ว สร้างสรรค์จริงหรือไม่
หรือพูดอีกแบบ คือ
เราจะใช้หลักธรรมอะไร
ในการตรวจสอบว่า การตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ หรือการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต เป็นไปในทางสร้างสรรค์อย่างแท้จริง (ความรับผิดชอบอย่างสร้างสรรค์) หรือไม่
คำตอบคือ...มรรคมีองค์ 8
ตรวจสอบวิธีการตอบสนองของเราต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
1.สัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูกมั้ย เช่น เข้าใจที่เราประสบปัญหานี้หรือไม่สมปรารถนาคงเป็นกรรมเก่าของเรา ถ้าเราวู่วามตอบโต้อะไรไป ก็จะก่อกรรมใหม่ มีผลต่ออีกในอนาคต
หรือสิ่งที่เราทำลงไปถูกต้องตามทำนองคลองธรรมไหม พิจารณาถึงเรื่องดี ชั่ว บุญ บาป หรือยัง
2.สัมมาสังกัปปะ ความคิดชอบ หรือคิดดีมั้ย เช่น
เรากำลังตอบสนองด้วยความเห็นแก่ตัว ความพยาบาทอยู่มั้ย ไปเบียดเบียนเขามั้ย มีเล่ห์กลอะไรหรือเปล่า เป็นต้น เรียกว่าตรวจสอบความคิด
3. สัมมาวาจา วาจาชอบ หรือพูดดีจริงๆ มั้ย เช่น
อะไรที่เราพูดไป เป็นความจริง มีประโยชน์ ถูกกาละเทศะหรือเปล่า หยาบคายไหม พูดด้วยจิตเมตตาจริงหรือเปล่า นึกถึงผลระยะยาว เกิดผลดี(เคยพูดไปแล้ว)จริงไหม เป็นต้น
4. สัมมากัมมันตะ การงาน งานที่ทำชอบมั้ย เช่น
เป็นการฆ่า เบียดเบียนทำร้ายชีวิตผู้อื่นหรือเปล่า เบียดเบียนทรัพย์ผู้อื่นหรือเปล่า ประพฤติผิดในกามไหม
5. สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีพชอบ อาชีพที่เราเลือกทำหรือจะตัดสินใจเลือกทำ มันถูกมั้ย เช่น
ประสบเหตุการณ์ผิดหวังจากการทำงาน ค้าขายไม่สมหวัง เลยเลือกค้าขายน้ำเมาเพราะคิดว่าได้ทรัพย์มาง่ายดี รวมถึงมิจฉาอาชีวะอื่นๆ เช่นค้ามนุษย์ ค้าอาวุธ เป็นต้น
6. สัมมาวายามะ ความเพียรชอบ ตรงกับสัมมัปธาน 4 เพียรระวังอย่าให้ความชั่วที่ยังไม่เกิดขึ้น เกิดขึ้นในตัวเรา
เพียรละเสียซึ่งนิสัยเสีย ความชั่วที่เกิดขึ้นแล้ว
เพียรทำความดีที่ยังไม่เกิดในตัวเรา
เพียรรักษาความดีที่มีในตัวแล้ว อย่าให้เสื่อมถอย แต่พยายามทำให้เพิ่มพูนขึ้น
7. สัมมาสติ รู้ตัวจริงๆ ใช่ไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่ กำลังคิดอะไรอยู่ กำลังพูดอะไรอยู่
8. สัมมาสมาธิ ใจตั้งมั่นถูกไหม จิตเป็นกุศลหรือเปล่า คือเป็นไปเพื่อความสงบระงับมั้ย
จะเห็นได้ว่า เราตรวจสอบผ่านมรรคมีองค์ 8 จะครอบคลุมหมด ตั้งแต่เรื่องศีล 5 กฏแห่งกรรม หิริ โอตัปปะ พรหมวิหาร 4 สัมมัปธาน 4
ลองอ่านบทความนี้เพิ่มเติมดู ซึ่งจะอธิบายความหมายมรรคมีองค์ 8 ทั้งเบื้องสูงและเบื้องต่ำ เราสามารถใช้ความหมายเบื้องต่ำหรือเบื้องต้นมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ตามลิงก์นี้ http://www.kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=15431
เอวัง...ด้วยประการฉะนี้
อธิบายความโดยย่อ
พื้นฐานชีวิตของมนุษย์ทุกคนคือทุกข์ แต่ถ้าพูดทุกข์นำบ่อย ๆ คงไม่มีใครเข้าอบรมสัมมนาแน่ เราจึงเน้นพลิกมุมไปพูดเริ่มต้นที่ความสุขก่อน
เมื่อคนมีความทุกข์บ่อยๆ ตั้งแต่ทุกข์จากร่างกาย ที่ต้องคอยเติมเต็มด้วยปัจจัย 4 ก็ต้องไปทำมาหากิน ได้มาไม่พอก็เครียด พอกิน ไม่พอใช้ ก็เครียด พอกิน พอใช้ แต่ไม่พอโชว์ ก็เครียด ไปทำงานแก่งแย่งกัน กระทบกระทั่งกันก็ทุกข์ เป็นต้น
เมื่อต่างคนต่างทุกข์ ใจก็ขุ่นมัว ตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิตก็ไม่สร้างสรรค์ คิดร้าย พูดร้าย ทำร้ายๆ แล้วก็ไม่รู้ตัว แล้วมักจะอธิบายว่าเขาทำเราก่อน บางพฤติกรรมก็ทำซ้ำๆ จนเป็นนิสัย ความเคยชิน ชินหนักเข้าก็ไม่อยากแก้ หรือไม่รู้จะแก้ยังไง
เมื่อเลือกตอบสนองแบบผิดๆ กลับไปกลับมา ความทุกข์ก็เพิ่มขึ้น เมื่อความทุกข์เพิ่มขึ้นก็ยิ่งตอบสนองแบบผิดๆ หนักขึ้นไปอีก ความทุกข์ก็ทับทวีคูณขึ้นไปอีก
ขอเพียงหยุดพิจารณาตามความเป็นจริงสักนิด ทำความเข้าใจ อะไรที่ทำให้เราทุกข์ อะไรคือเหตุแห่งทุกข์ (ควรละ) อะไรคือความดับทุกข์ (ควรทำให้แจ้ง) แล้วอะไรคือหนทางหรือแนวปฏิบัติที่จะดับทุกข์ (ควรทำให้เจริญ)
ซึ่งคำตอบมีอยู่แล้วในพระพุทธศาสนา ในบทสวดธรรมจักกัปปวัตนสูตร
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก ชมรมบ้านแสงสว่าง ครอบครัวอบอุ่น แห่งประเทศไทย (หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพตามหลักพุทธวิธีพัฒนานิสัย)
ขอขอบคุณภาพจาก KNOWLEDGE STATION https://www.intouchcompany.com/ks/enews68/read.html