5 ข้อคิดสะกิดชีวิตก่อนตายใน “Die Tomorrow”

1 พฤษภาคม 2567 16:10 น.


"Die Tomorrow" หรือ "พรุ่งนี้ตาย" เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสารคดี ดราม่า กำกับโดย เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์

ออกฉายในปี พ.ศ. 2565 

 

เนื้อเรื่อง:

ภาพยนตร์เรื่องนี้แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ

 

ส่วนแรก: นำเสนอผ่านบทสัมภาษณ์บุคคลหลากหลายวัย เกี่ยวกับมุมมองความตาย ความคิด ความรู้สึก

และประสบการณ์เกี่ยวกับความตาย

 

ส่วนที่สอง: นำเสนอเรื่องราวผ่านตัวละครสมมติ เล่าถึงวันสุดท้ายของชีวิตคนธรรมดา ที่ต้องเผชิญกับ

เหตุการณ์ต่างๆ ความรู้สึก และความสัมพันธ์ ก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป

 

โดยนี่คือบางส่วนกับ 5 ข้อคิดจาก 6 เรื่องราวที่จะทำให้คุณมองเห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตว่าเราทำดีที่สุด

แก่ตัวเองหรือยังและตั้งคำถามว่าวันนี้คุณมอบความรักให้แก่คนรอบตัวมากพอหรือไหมในยามที่ยังมีลมหายใจ

 

1.  เพราะก่อนวันตาย มักเป็นวันธรรมดาๆ วันหนึ่ง

เราไม่มีทางรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น บางครั้งความตายก็ไม่มีสัญญาณเตือน ไม่มีการบอกล่วงหน้าและไม่มีเวลา

ให้ได้ทำใจหรือกล่าวคำร่ำลาใดๆ ภาพของเหล่าเพื่อนสนิทสาวที่พูดถึงความฝันในอนาคตที่บ้างก็อยากไปใช้ชีวิต

ต่างประเทศ บ้างก็อยากจะแค่เพียงมีครอบครัวเล็กๆ ที่นั่งกินข้าวพร้อมหน้ากันทุกวัน แต่ใครจะรู้ว่าเราอาจไม่มี

โอกาสใช้ชีวิตได้ยาวนานแบบนั้นก็ได้ ซึ่ง “Die Tomorrow” ก็ตอกย้ำความจริงที่ว่านี้ได้อย่างสะเทือนใจ

 

2.  จงใช้ทุกวินาทีตอนนี้อย่างมีค่ากับคนที่คุณรัก

เคยไหมเวลาที่คนใกล้ตัวอยากกินอะไรสักอย่างที่ชอบมากๆ แล้วมาชวนเราไปด้วย แต่เราแค่บอกปัดๆ

แบบไม่สนใจว่า“ไว้วันหลังเหอะ” จากนั้นลองคิดดูว่าถ้านั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่คุณพูดกับพ่อของคุณ แม่ของคุณ

พี่ของคุณ ใครก็ตามในครอบครัวของคุณ ก่อนที่พวกเขาจะตายจากไป เราจะรู้สึกเสียใจภายหลังหรือเปล่ากับการ

ไม่ได้ใช้โอกาสและเวลาเหล่านั้นกับ “คนที่คุณรัก” ? 

“ความตาย” สามารถพรากคนที่คุณรักไปได้ทุกเมื่อจากหลายร้อยล้านเหตุผลมากมาย ฉะนั้นอยากปล่อยให้วินาที

ที่จะได้ใช้ร่วมกับพวกเขาผ่านไปเฉยๆ เพราะคิดว่ายังมี “วันต่อไป” รอเราอยู่แน่นอน 

 

3. ความตายเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งเราก็เผลอมองข้ามมันไป

การที่ใครสักคนมองว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดาที่ตัวเราไม่มีทางหนีพ้นได้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่บางครั้ง

สิ่งที่เรามองข้ามไปก็คือ “คนที่เรารัก” วันหนึ่งอาจต้องตายไปก่อนเราก็ได้ บางคนที่คิดว่าจะอายุยื่นยาวกว่าเรา

มีอนาคตที่สดใสกว่าเรา ก็อาจต้องเป็นฝ่ายที่ตายจากโลกนี้ไปก่อนเราก็ได้ 

 

4. “เจ็บ” หรือ “ตาย” อะไรน่ากลัวกว่ากัน?

คนที่ตายแล้วจะสบายกว่าคนที่ยังหายใจอยู่หรือเปล่า ? ส่วนคนข้างกายที่ยังหายใจอยู่จะเป็นเรื่องโชคดีกว่า

ที่อายุยืน แต่ต้องอยู่อย่างเดียวดายไหม? หนึ่งในประโยคที่ดีที่สุดใน “Die Tomorrow” ก็คือคำพูดของเด็กชายที่ว่า

“ถ้าตายแล้วเราก็แค่หายไปเลย แต่ถ้าเจ็บมันน่ากลัวกว่า เพราะเราก็เจ็บอยู่ตรงนั้นไม่ได้ไปไหน” ซึ่งสะกิดใจแก่

ผู้ชมได้อย่างรุนแรง บวกกับเนื้อหาที่ตัวหนังนำเสนอก็ยิ่งชวนให้ผู้ชมเกิดการตั้งคำถามในใจหลังดูหนังเรื่องนี้จบว่า

เรามองเรื่องของเกิด แก่ เจ็บ ตาย ยังไง

 

5.  อย่ากลัวความตาย แต่จงกลัวที่จะไม่ได้ทำสิ่งดีๆ ในชีวิตก่อนตาย

เหตุผลที่คนๆหนึ่งตายจากโลกใบนี้ เหตุผลที่คนๆหนึ่งมีอายุยืนยาว แต่คนละคนล้วนมีมุมมองต่อเรื่องเหล่านี้

แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งสำคัญคือความตายนั้นเป็นเรื่องจริง และก่อนจะถึงวันนั้นที่เราเองไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นกับ

ตัวเองหรือคนรอบตัวเมื่อไหร่ วันไหน เวลาไหน วินาทีไหน สิ่งที่เราทำได้คือทำทุกวินาทีนี้ให้ดีที่สุด ทำสิ่งดีๆ

กับตัวเองและคนที่เรารัก พร้อมลองถามตัวเองว่าวันนี้ คุณทำดีกับตัวเองและคนที่เรารัก รวมถึงต่อโลกใบนี้ดีพอแล้วหรือยัง?

 

ประเด็นสำคัญ:

      * ความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญ ไม่มีใครหนีพ้น

      * แต่ละคนมีมุมมองความตายที่แตกต่าง

      * ความตายเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร เราจะตาย

      * การใช้ชีวิตอย่างมีสติ มีความหมาย และทำสิ่งที่มีคุณค่า เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

 

ข้อคิด:

       * ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ทำในสิ่งที่ชอบ บอกรักคนที่เรารัก ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

       * อย่ากลัวความตาย เตรียมตัวให้พร้อม เผชิญหน้ากับมันอย่างสงบ

       * ใช้ชีวิตแต่ละวันให้มีความสุข ทำดี ทำประโยชน์ สร้างสิ่งดี ๆ ให้กับโลก

 

 #โรงเรียนรักษาศีล5 #โครงการพัฒนาเยาวชน #พัฒนา #ศีลธรรม #โรงเรียน #นวัตกรรมใหม่