ภาวะผู้นำไม่ใช่เพียงการเป็นหัวหน้า
ภาวะความเป็นผู้นำถือเป็นทักษะที่สำคัญและควรปลูกฝังตั้งแต่วัยเรียน การมีภาวะความเป็นผู้นำไม่ใช่เพียงการเป็นหัวหน้ากลุ่ม หัวหน้าห้อง หรือการเป็นประธานนักเรียนแต่หมายถึง
“ การมีความรับผิดชอบ ‘นำ’ พาชีวิตของตนไปยังเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ รวมถึงสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จไม่ว่าตนจะมีหน้าที่ใดในทีมก็ตาม ”
เด็กทุกคนสามารถมีภาวะความเป็นผู้นำได้ หากเราปลูกฝังเขาตั้งแต่วัยเด็ก
แจ็ค เวลซ์ อดีตประธานและซีอีโอของบริษัท General Electric หนึ่งในผู้บริหารที่เก่งที่สุดของสหรัฐอเมริกา เคยกล่าวไว้ว่า
“ จงควบคุมโชคชะตาของคุณเอง ก่อนที่ผู้อื่นจะเข้ามาควบคุมแทน ” ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของการมีภาวะผู้นำในตนเองนั่นเอง
เพราะการมีภาวะผู้นำ คือ
การเพิ่มโอกาสในชีวิต
ครูอุ๋มอิ๋ม อลิศรา โพธิ์กิ่ง
ทุกครั้งที่เราก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัย นั่นคือการเริ่มบทใหม่แห่งการเติบโต เด็กทุกคนมีศักยภาพเท่ากันในการพัฒนา ตนเองในทุกทักษะ ถึงจะมีต้นทุนที่ไม่เท่ากันแต่ภาวะผู้นำนั้นเป็นสิ่งที่ฝึกได้
โดยการมี ‘ภาวะความเป็นผู้นำ‘ ที่ดีต้องอาศัย
* ความน่าเชื่อถือและไว้ใจได้ เพื่อเวลาพูดอะไรคนจะฟัง และเชื่อถือสิ่งที่เราพูด
* มีศิลปะในการสื่อสาร เพราะในชีวิตประจำวัน หรือการทำงาน เราย่อมหนีไม่พ้นการสื่อสาร เพื่อการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
* มีความอดทน มุ่งมั่น และควบคุมอารมณ์ได้ เพราะการอยู่ร่วมกัน ต่างคนต่างมีความหลากหลายทางความคิด หากเราไม่สามารถยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้ ก็ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมหรือทำงานร่วมกับเรา
* มีสติและความละเอียดรอบคอบ เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง หากใจไม่นิ่งการตัดสินใจอาจผิดพลาดได้ ดังนั้นการมีสติ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
* อ่อนน้อมถ่อมตนและช่างสังเกต เพื่อดึงศักยภาพของคนในทีมออกมา ผู้คนต่างต้องการการให้เกียรติและความเคารพ หากเราเคารพผู้อื่น หาข้อดีของเขาเพื่อดึงศักยภาพของเขาออกมา ประสิทธิภาพและบรรยากาศในการทำงานย่อมดีตามไปด้วย
แล้วเราจะสร้าง ‘ภาวะความเป็นผู้นำ‘ ให้กับเด็กนักเรียนได้อย่างไร
การสื่อสารแบบผู้นำ
หนึ่งในทักษะการเป็นผู้นำที่สำคัญคือเรื่องการสื่อสารที่ดี ซึ่งนั่นก็คือ การสื่อสารให้คนฟังเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการอย่างถูกต้อง โดยมีหลักการ 5 ข้อ คือ
1. สิ่งที่พูดเป็นความจริง
2. สิ่งที่พูดมีความสุภาพ
3. สิ่งที่พูดเกิดประโยชน์
4. สิ่งที่พูดพูดด้วยความปราถนาดีจริงๆ
5. สิ่งที่พูดถูกกาลเทศะ เช่น การตักเตือนผู้อื่นเราไม่ควรพูดต่อหน้าผู้อื่น ควรเตือนเป็นการส่วนตัว แต่หากเป็นการชื่นชมเราควรชื่นชมต่อหน้าผู้อื่น
ทักษะนี้ช่วยให้เด็ก ๆ มีมุมมอง “ใจเขาใจเรา” คิดถึงใจผู้ฟัง และฝึกให้เป็นผู้ฟังที่ดี ให้เกียรติผู้อื่น ไม่นินทาว่าร้าย รู้จักขอบคุณ และขอโทษเมื่อทำผิดพลาดไป
สิ่งนี้เรียกอีกอย่างว่าการมีวาจาสุภาษิต เป็นมงคลที่ 10 ในมงคลชีวิต 38 ประการ และเป็นกิจวัตรความดีข้อที่ 5 ใน 7 กิจวัตรความดี ที่เด็กๆ จะได้บันทึกในสมุดบันทึกความดีเป็นประจำ ถ้าวันไหนเผลอไปก็ไม่เป็นไร แต่วันต่อๆ ไปเราก็จะมีสติมากขึ้นว่าเราควรสื่อสารกับผู้อื่นอย่างไร
???? อ่านต่อกิจวัตรความดีข้อที่ 5 พูดดี มีวาจาสุภาษิต:
https://youtu.be/cOJOZSBpS8A?si=8l15BxlimlBeXy9K
พื้นที่แห่งการสร้างผู้นำ
### ชั่วโมงสุขจริงหนอ Sandbox สร้างภาวะผู้นำ
เมื่อได้ฝึกการสื่อสารแล้ว การมีเวทีให้เขาได้แสดงความสามารถก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะความมั่นใจเกินขึ้นได้ จากการลงมือทำซ้ำๆ
การที่เด็กมีพื้นที่แห่งการลองผิดลองถูกถือเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ที่จริงใจ โดยที่พวกเขาจะได้ลงสนามจริงด้วยตนเอง โดยมีคุณครูเป็นโค้ชคอยแนะนำ
ในทุกวันนี้เราคงหลีกเลี่ยงการพูด การนำเสนอ การอธิบายงาน ต่อหน้าผู้คนได้ยาก
นอกจากการเตรียมข้อมูล เนื้อหาที่ต้องพูดแล้ว การฝึกพูดตามหลักการ 5 ข้อจะทำให้เด็กๆ สื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติ แสดงถึงทัศนคติที่ดี มีการพูดที่พอเหมาะพอดี ไม่ขาดไม่เกิน เหมาะสมกับสถานการณ์
สำหรับคุณครูที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพฯ คงจะคุ้นเคยกับ ‘กิจกรรมชั่วโมงสุขจริงหนอ‘ เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ใช้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเปิดกว้างของครูและนักเรียน ผ่านการชมสื่อที่สร้างสรรค์ ในประเด็นที่มีความน่าสนใจ
ชั่วโมงสุขจริงหนอ =
พื้นที่ปลอดภัย
กิจกรรมนี้จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็กๆ
เพราะครูจะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ออกมาเล่าถึงเหตุการณ์ที่พวกเขาประทับใจในแต่ละสัปดาห์ เช่น การได้ช่วยเหลือผู้อื่น การจับแง่คิดที่ดีจากคนรอบข้างมาเป็นแบบอย่างให้กับตนเอง หรือ การพัฒนาตนเองด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำสมาธิ เพื่อให้มีสมาธิในการเรียน ผ่อนคลายจิตใจ การอ่านหนังสือ การดูคลิปเพื่อการพัฒนาตัวเอง หรือการได้ลองฝึกทักษะใหม่ๆ ก็ได้เช่นกัน
พื้นที่ตรงนี้จะเป็นกิจกรรมที่ทำให้พวกเขาได้กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ กล้าแสดงออก ในทางที่ดี แม้การพูดในครั้งแรกอาจจะมีความขลุกขลักอยู่บ้าง แต่การกล่าวชื่นชม ให้กำลังใจและคำแนะนำของครูจะช่วยทำให้เขามั่นใจมากขึ้นอย่างแน่นอน
Soft power effect
การเปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้แชร์ในเรื่องราวดีๆ เขาก็จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนนักเรียนคนอื่นในการพัฒนาตนเองด้วย เมื่อได้ฟังเพื่อนเล่าถึงความสุขจากการทำสิ่งดี ผู้ฟังเองก็จะย่อมเกิดแรงบันดาลในการพัฒนาตนเอง และช่วยเหลือผู้อื่น เขาจะไม่เก้อเขินในการทำสิ่งที่ดี เพราะคนรอบตัวเขาต่างก็ยอมรับ และยินดีไปด้วย
เช่น เคสของคุณครูอุ๋มอิ๋ม อลิศรา โพธิ์กิ่ง รร.บ้านปราสาท จ.ศรีสะเกษ ที่นำกิจกรรม “ชั่วโมงสุขจริงหนอ” มาเป็นเครื่องมือในการฝึกฝนทักษะภาวะผู้นำให้กับเด็ก ๆ โดยการสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่เอื้อให้พวกเขาได้แสดงออกอย่างมั่นใจในการพูดและการทำความดี นี่เป็นเคสที่แสดงถึงจิตวิญญาณของความเป็นครู ที่ไม่ได้เป็นเพียงเรือจ้างที่มอบความรู้ให้แก่พวกเขา แต่ยังมอบทักษะในการเป็นคนดีของสังคมให้กับพวกเขาเติบโตไปอย่างงดงาม
โดยโรงเรียนของครูอุ๋มอิ๋มจะจัดกิจกรรมชั่วโมงสุขจริงหนอทุกวันศุกร์ เวลา 9:00-10:00 น. หลังเข้าแถวเคารพธงชาติเพื่อให้เด็กๆ ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ต่างๆ
นอกจากนี้ครูอุ๋มอิ๋มยังฝึกเด็กแกนนำ 10 คน ให้นำน้องๆ จัดกิจกรรมชั่วโมงสุขหนออีกด้วย ในช่วงแรกคุณครูจะนำเด็กๆ ที่เป็นแกนนำทำกิจกรรมในทุกขั้นตอน พอผ่านไป 1 เทอม เด็กๆ ก็มีความมั่นใจ และสามารถจัดกิจกรรมเองได้ เป็นพิธีกรเองได้ โดยมีครูคอยเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ
การเปลี่ยนแปลงเมื่อ
เด็กมีภาวะผู้นำ
ผลจากการทำกิจกรรมชั่วโมงสุขจริงหนอของครูอุ๋มอิ๋ม พบว่าเด็ก ๆ มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด ได้แก่
* นักเรียนกล้าแสดงออกมากขึ้น : จากที่ไม่กล้าพูดไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ก็เริ่มกล้าแสดงออก
* พัฒนาภาวะความเป็นผู้นำ : นักเรียนสามารถจัดการกิจกรรมได้ด้วยตัวเอง
* นักเรียนมีส่วนร่วมในการทำความดี : นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม และยังมีการแย่งกันทำงานต่าง ๆ ด้วยความยินดี
### บทสรุป
การปลูกฝังภาวะผู้นำตั้งแต่วัยเรียนเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาเด็ก ๆ แต่ยังเป็นการสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้พวกเขากลายเป็นผู้นำที่มีความรับผิดชอบและเป็นคนดีของสังคม
การสื่อสารที่ดีและการมีพื้นที่ให้แสดงออกผ่านกิจกรรม เช่น ชั่วโมงสุขจริงหนอ ช่วยให้เด็ก ๆ มีทักษะการสื่อสาร การแสดงออก การให้เกียรติผู้อื่น และความมั่นใจในการทำความดี กิจกรรมเหล่านี้เป็นรากฐานที่ส่งเสริมการเป็นผู้นำที่ดี ซึ่งไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อตนเอง แต่ยังเป็นคุณูปการต่อสังคมและประเทศชาติในอนาคต ซึ่งมีคุณครูและโรงเรียนที่เป็นแม่พิมพ์ พ่อพิมพ์คอยนำทางให้พวกเขา
…
บทความการสร้างภาวะความเป็นผู้นำในรั้วโรงเรียน ยังไม่จบ สามารถติดตาม ep. ต่อไปเร็วๆ นี้ครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
Facilitation สู่การสร้างห้องเรียนแห่งความสุข: มุมมองจากคุณครูภาคสนาม:
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2d4
ครูเสกสันต์ ณ.เชียงใหม่ จากครูดุสู่ครูใจดี : เส้นทางการสร้างห้องเรียนแห่งความสุข
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2e4
ครูกาญจนา จารีย์ สอนเด็กให้ทำงานเป็นทีมด้วยผู้นำ 4 ทิศ: จากความเงียบ...สู่พลังแห่งการเรียนรู้
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64x264
ครูถาวร ศรีทุม จากความคาดหวัง สู่ความเข้าใจ : ความสุขของครูที่นักเรียนกล้าเข้าหา
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2f4
ครูสมหทัย แคว้นไธสง เปิดประตูสู่ความเข้าใจ : การใช้การฟังเชิงลึกเพื่อเปลี่ยนแปลงห้องเรียน
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64x274
ติดตามข่าวสาร คอร์สอบรมต่างๆ ทาง FB โครงการ : https://www.facebook.com/sila5schoolproject
ข้อมูลโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพฯ : https://www.sila5.com/school/
10 มิถุนายน 2568
30 พฤษภาคม 2568
10 พฤษภาคม 2568