"Die Tomorrow" หรือ "พรุ่งนี้ตาย" เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสารคดี ดราม่า กำกับโดย เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์
ออกฉายในปี พ.ศ. 2565
เนื้อเรื่อง:
ภาพยนตร์เรื่องนี้แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ
ส่วนแรก: นำเสนอผ่านบทสัมภาษณ์บุคคลหลากหลายวัย เกี่ยวกับมุมมองความตาย ความคิด ความรู้สึก
และประสบการณ์เกี่ยวกับความตาย
ส่วนที่สอง: นำเสนอเรื่องราวผ่านตัวละครสมมติ เล่าถึงวันสุดท้ายของชีวิตคนธรรมดา ที่ต้องเผชิญกับ
เหตุการณ์ต่างๆ ความรู้สึก และความสัมพันธ์ ก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป
โดยนี่คือบางส่วนกับ 5 ข้อคิดจาก 6 เรื่องราวที่จะทำให้คุณมองเห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตว่าเราทำดีที่สุด
แก่ตัวเองหรือยังและตั้งคำถามว่าวันนี้คุณมอบความรักให้แก่คนรอบตัวมากพอหรือไหมในยามที่ยังมีลมหายใจ
1. เพราะก่อนวันตาย มักเป็นวันธรรมดาๆ วันหนึ่ง
เราไม่มีทางรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น บางครั้งความตายก็ไม่มีสัญญาณเตือน ไม่มีการบอกล่วงหน้าและไม่มีเวลา
ให้ได้ทำใจหรือกล่าวคำร่ำลาใดๆ ภาพของเหล่าเพื่อนสนิทสาวที่พูดถึงความฝันในอนาคตที่บ้างก็อยากไปใช้ชีวิต
ต่างประเทศ บ้างก็อยากจะแค่เพียงมีครอบครัวเล็กๆ ที่นั่งกินข้าวพร้อมหน้ากันทุกวัน แต่ใครจะรู้ว่าเราอาจไม่มี
โอกาสใช้ชีวิตได้ยาวนานแบบนั้นก็ได้ ซึ่ง “Die Tomorrow” ก็ตอกย้ำความจริงที่ว่านี้ได้อย่างสะเทือนใจ
2. จงใช้ทุกวินาทีตอนนี้อย่างมีค่ากับคนที่คุณรัก
เคยไหมเวลาที่คนใกล้ตัวอยากกินอะไรสักอย่างที่ชอบมากๆ แล้วมาชวนเราไปด้วย แต่เราแค่บอกปัดๆ
แบบไม่สนใจว่า“ไว้วันหลังเหอะ” จากนั้นลองคิดดูว่าถ้านั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่คุณพูดกับพ่อของคุณ แม่ของคุณ
พี่ของคุณ ใครก็ตามในครอบครัวของคุณ ก่อนที่พวกเขาจะตายจากไป เราจะรู้สึกเสียใจภายหลังหรือเปล่ากับการ
ไม่ได้ใช้โอกาสและเวลาเหล่านั้นกับ “คนที่คุณรัก” ?
“ความตาย” สามารถพรากคนที่คุณรักไปได้ทุกเมื่อจากหลายร้อยล้านเหตุผลมากมาย ฉะนั้นอยากปล่อยให้วินาที
ที่จะได้ใช้ร่วมกับพวกเขาผ่านไปเฉยๆ เพราะคิดว่ายังมี “วันต่อไป” รอเราอยู่แน่นอน
3. ความตายเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งเราก็เผลอมองข้ามมันไป
การที่ใครสักคนมองว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดาที่ตัวเราไม่มีทางหนีพ้นได้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่บางครั้ง
สิ่งที่เรามองข้ามไปก็คือ “คนที่เรารัก” วันหนึ่งอาจต้องตายไปก่อนเราก็ได้ บางคนที่คิดว่าจะอายุยื่นยาวกว่าเรา
มีอนาคตที่สดใสกว่าเรา ก็อาจต้องเป็นฝ่ายที่ตายจากโลกนี้ไปก่อนเราก็ได้
4. “เจ็บ” หรือ “ตาย” อะไรน่ากลัวกว่ากัน?
คนที่ตายแล้วจะสบายกว่าคนที่ยังหายใจอยู่หรือเปล่า ? ส่วนคนข้างกายที่ยังหายใจอยู่จะเป็นเรื่องโชคดีกว่า
ที่อายุยืน แต่ต้องอยู่อย่างเดียวดายไหม? หนึ่งในประโยคที่ดีที่สุดใน “Die Tomorrow” ก็คือคำพูดของเด็กชายที่ว่า
“ถ้าตายแล้วเราก็แค่หายไปเลย แต่ถ้าเจ็บมันน่ากลัวกว่า เพราะเราก็เจ็บอยู่ตรงนั้นไม่ได้ไปไหน” ซึ่งสะกิดใจแก่
ผู้ชมได้อย่างรุนแรง บวกกับเนื้อหาที่ตัวหนังนำเสนอก็ยิ่งชวนให้ผู้ชมเกิดการตั้งคำถามในใจหลังดูหนังเรื่องนี้จบว่า
เรามองเรื่องของเกิด แก่ เจ็บ ตาย ยังไง
5. อย่ากลัวความตาย แต่จงกลัวที่จะไม่ได้ทำสิ่งดีๆ ในชีวิตก่อนตาย
เหตุผลที่คนๆหนึ่งตายจากโลกใบนี้ เหตุผลที่คนๆหนึ่งมีอายุยืนยาว แต่คนละคนล้วนมีมุมมองต่อเรื่องเหล่านี้
แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งสำคัญคือความตายนั้นเป็นเรื่องจริง และก่อนจะถึงวันนั้นที่เราเองไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นกับ
ตัวเองหรือคนรอบตัวเมื่อไหร่ วันไหน เวลาไหน วินาทีไหน สิ่งที่เราทำได้คือทำทุกวินาทีนี้ให้ดีที่สุด ทำสิ่งดีๆ
กับตัวเองและคนที่เรารัก พร้อมลองถามตัวเองว่าวันนี้ คุณทำดีกับตัวเองและคนที่เรารัก รวมถึงต่อโลกใบนี้ดีพอแล้วหรือยัง?
ประเด็นสำคัญ:
* ความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญ ไม่มีใครหนีพ้น
* แต่ละคนมีมุมมองความตายที่แตกต่าง
* ความตายเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร เราจะตาย
* การใช้ชีวิตอย่างมีสติ มีความหมาย และทำสิ่งที่มีคุณค่า เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ข้อคิด:
* ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ทำในสิ่งที่ชอบ บอกรักคนที่เรารัก ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
* อย่ากลัวความตาย เตรียมตัวให้พร้อม เผชิญหน้ากับมันอย่างสงบ
* ใช้ชีวิตแต่ละวันให้มีความสุข ทำดี ทำประโยชน์ สร้างสิ่งดี ๆ ให้กับโลก
#โรงเรียนรักษาศีล5 #โครงการพัฒนาเยาวชน #พัฒนา #ศีลธรรม #โรงเรียน #นวัตกรรมใหม่
10 พฤษภาคม 2568
20 เมษายน 2568
10 เมษายน 2568