The Light Up Talk: เทคนิคประสานใจ ผลักดันโครงการอย่างไร
ไม่เหนื่อยคนเดียว
ครูสุรกัญญา จันทน์ไพรสณฑ์ (ครูแตน) ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคม ศาสนาและวัฒนธรรม หัวหน้าโครงการพัฒนาคุณธรรม โรงเรียนนวมินทราชินูทิศเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ จังหวัดสมุทรปราการ ได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการ The Light Up Talk
คุณครูมิใช่สอนศีลธรรมแค่ตามหน้าที่ แต่ขับเคลื่อนความดีสู่ลูกศิษย์ทั้งโรงเรียนให้ปฏิบัติจริง
ครูแตน ครูผู้สอนวิชาพระพุทธศาสนาและวิชาหน้าที่พลเมือง ระดับชั้นมัธยมต้น อ่านแล้วผู้อ่านอาจจะสนใจอยู่แค่หลักสิบ แต่ถ้าเราเพิ่มว่าคุณครูยังเป็นหัวหน้างานพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของโรงเรียนนวมินทราชินูทิศเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษที่มีนักเรียนมากถึง 2,500 คน และมีบุคลากรทางการศึกษา 136 คน มีหน้าที่ดูแลกิจกรรมและโครงการสำคัญที่เกี่ยวกับศาสนา รวมถึงกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ ของโรงเรียนด้วยล่ะ จำนวนผู้ฟังอาจจะยังเพิ่มขึ้นอีกไม่เท่าไหร่ แต่เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มในการฟังบทสัมภาษณ์ของครูแตน คุณครูสุรกัญญา จันทน์ไพรสณฑ์ แห่งเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้เราเข้าใจว่าคุณครูไม่ได้แค่สอนวิชาพระพุทธศาสนาและหน้าที่พลเมืองตามตำรา แต่คุณครูเป็นพลังในการขับเคลื่อนความดีของโรงเรียนอย่างแท้จริง
ถ้ามีโอกาสอยากให้ผู้อ่านได้ลองฟังบทสัมภาษณ์ของครูแตน และเราเชื่อว่าผู้ฟังจะสามารถสัมผัสได้ถึงหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของครูแตนเช่นเดียวกับเรา
สมัครโรงเรียนสุดท้าย แต่ผลงานไม่ท้ายสุด
เมื่อถามว่าครูแตนรู้จักโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพฯ ได้อย่างไร ครูแตนตอบโดยเร็วว่าไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่คุณครูรุ่นน้องที่พึ่งย้ายมาแนะนำ ครูแตนเลยลองไปศึกษาดู แต่เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายที่โครงการเปิดรับสมัคร ครูแตนจึงสมัครโดยไม่รีรอ โดยให้เหตุผลง่ายๆ แต่กินใจว่า “อะไรที่ทำให้เด็กได้มีการพัฒนาคุณธรรมไปในทางที่ดี มันก็น่าสนใจ”
ถึงจะสมัครในวันสุดท้าย แต่ผลงานของครูแตน ไม่ใช่ท้ายสุดแน่นอน รับประกันด้วยนักเรียนของครูที่ชนะการประกวด Sila 5 Smart Idol แถมโรงเรียนยังติด 1 ใน 10 ของ Sila 5 Smart School และได้รับรางวัลการส่งผลงาน 5 ดาวทองคุณภาพในการส่งสมุดบันทึกความดี
ด้วยขนาดของโรงเรียน กับนักเรียน 2,500 คน พร้อมรับประกันด้วยผลงานที่น่าประทับใจ เราจึงอยากชวนผู้อ่านมาติดตามเคล็ดไม่ลับที่ ครูสุรกัญญา จันทน์ไพรสณฑ์ หรือครูแตน ใช้ในการขับเคลื่อนงานศีลธรรมในโรงเรียน
ทำไมต้องทำทั้งโรงเรียน
งานคุณธรรมทุกงานที่ครูแตนรับผิดชอบ ปกติครูจะให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมทุกคนเสมอ โดยให้เหตุผลเรียบง่ายว่า “การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมให้นักเรียน ไม่ได้เจาะจงที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทุกคนมีความดี สามารถที่จะพัฒนาความดีของตัวเองขึ้นมาได้ เราจึงควรให้ความยุติธรรมกับทุกคน และไม่ปิดกั้น”
ครูแตนยังเสริมอีกว่า ไม่จำเป็นต้องลองทำทีละห้องให้ประสบความสำเร็จก่อน ถ้าเป็นเรื่องของความดีเพื่อเด็กนักเรียน ให้เราลงมือทำทั้งโรงเรียน เพื่อเด็กๆ และคุณครูจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และได้มีส่วนร่วมในการทำความดีและพัฒนาตนเองร่วมกัน
ผลงาน 5 ดาวทองคุณภาพในการส่งสมุดบันทึกความดี
เมื่อได้แนวทางจาก ท่านผู้อำนวยการโรงเรียน มาสั้นๆ ว่า “อะไรที่คิดว่าดีกับนักเรียน ให้ทำเลย” ครูแตนไม่รอช้า เมื่อเป้าหมายชัด ก็เริ่มลงมือทำทันที ความท้าทายเริ่มจากส่งยังไงให้ครบ เป้าหมายนักเรียน 2,500 คน ทำยังไงให้ส่งได้ทันเวลา 12 สัปดาห์และได้คุณภาพ แต่ที่สำคัญไปกว่าส่งให้ครบและส่งให้ทัน คือประโยชน์ที่แท้จริงที่นักเรียนจะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ ครูแตนไม่ได้หวังเพียงแค่ให้นักเรียนเขียนสมุดบันทึกความดีครบ และคุณครูตรวจงานทัน แต่ครูแตนหวังให้การเขียนสมุดบันทึกความดีเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของการทำความดีที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนสามารถต่อยอดได้ด้วยตัวเอง
การมอบหมายงานอย่างเป็นระบบผ่านหนังสือคำสั่งของโรงเรียน โดยมุ่งเน้นให้ครูที่ปรึกษาดูแลกลุ่มนักเรียนในห้องของตัวเอง เพื่อไม่สร้างภาระให้คุณครูท่านใดท่านหนึ่ง เป็นหนึ่งในกลไกที่ขับเคลื่อนการส่ง และการตรวจสมุดบันทึกความดี แต่หัวใจสำคัญของความสำเร็จที่ยั่งยืน คือการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมจาก ผอ. ในการจัดสรรเวลา 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ให้คุณครูได้ตรวจสมุดบันทึกความดีให้เสร็จและส่งคืนสมุดให้นักเรียนภายในวันนั้น เพื่อนำกลับไปบันทึกความดีได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน
หลังจากมอบหมายงาน ครูแตนจะมีการสื่อสารเพื่อขอความร่วมมืออย่างสม่ำเสมอในการส่งผลงาน และรูปภาพ เพื่อให้การนำเสนอผลงานได้คุณภาพที่ดี
หน้าที่ไม่ใช่ภาระ
แน่นอนว่าเมื่อมีหนังสือคำสั่งของโรงเรียนออกมาว่า คุณครูจะมีงานเพิ่ม คำถาม และข้อสงสัยมากมายย่อมเกิดขึ้น ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นเพียงแค่อีกกิจกรรมหนึ่งที่เพิ่ม ‘ภาระ’ ให้ทั้งคุณครู และนักเรียนหรือเปล่า
ครูแตนรับมือกับข้อสงสัยเหล่านี้ด้วยคำชี้แจงที่มุ่งเน้นไปที่ผลประโยชน์ของตัวนักเรียน โดยออกปากเชิญชวนไปว่า
“โครงการนี้ น่าจะช่วยพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมนักเรียนให้ดีขึ้น เรามาลองกันดูซักภาคเรียนไหม ถ้าไม่ดีแล้วค่อยเลิก” Open Mind, Open Heart และ Open Will ...
การเปิดความคิด เปิดใจ จะทำให้เปิดพลังออกมา เป็นหนทางสู่ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการทำงานและการใช้ชีวิต
เมื่อถามต่อว่า โครงการนี้จะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระคุณครูได้อย่างไร คำตอบของครูแตนแสดงให้เห็นถึงหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของความเป็นครู ... คือ การทำ ... ทั้งๆ ที่รู้ว่าเพิ่มงาน และนี่คือคำพูดของครูแตน
“ขอให้มองที่ผลประโยชน์ของนักเรียน อะไรที่ดีกับเด็ก ให้คิดว่าเป็นหน้าที่ของเรา”
“อย่าคิดว่าเป็นภาระ ขอให้คิดว่าเป็นหน้าที่”
กลยุทธ์ครูแตน ชวนคุย ชวนคิด ชวนทำ
เราเชื่อว่าหลายๆ คนจะนั่งอมยิ้ม ถ้าได้ฟังบทสัมภาษณ์ในช่วงนี้ ที่เป็นกลยุทธ์ของครูแตนในการชวนเด็กๆ คุย ถามสารทุกข์สุกดิบ ถามถึงเรื่องราวที่บ้าน ตามด้วยชวนให้เด็กๆ คิดถึงประโยชน์ของความดีที่ตัวเองอยากลงมือทำ และสุดท้ายชวนให้ต่อยอดเป็นความดีที่ไม่ใช่เกิดประโยชน์เฉพาะตัวเองแต่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ซึ่งสามารถสร้างความสุข และความเบิกบานใจได้
หัวใจของความสำเร็จอยู่ที่ให้โอกาสเด็กๆ ในการเลือกความดีที่ตัวเองอยากทำ
เริ่มจากทำบ้าง…เป็นทำให้บ่อยขึ้น จนเริ่มทำเป็นประจำ และสม่ำเสมอ
จนสร้างเป็นนิสัยใหม่ที่ยั่งยืน
เมื่อถามถึงสมุดบันทึกความดี ครูแตนบอกว่าสมุดบันทึกความดีของโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 แตกต่างออกไป เพราะมีสื่อช่วยสอนที่น่าสนใจ มี QR code ให้เด็กๆ ได้ scan เข้าไปรับชมสื่อธรรมะที่ช่วยให้เห็นภาพชัดเจน ที่สำคัญ ใช้ง่าย และไม่ยุ่งยาก เด็กๆ จึงรู้สึกสนุกที่ได้ทำ
สมุดบันทึกความดีเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ให้เด็กๆ ได้เห็นแนวทางในการเริ่มทำความดี โดยหน้าที่ของคุณครูคือ คอยชี้แนะ ให้กำลังใจ และที่สำคัญ สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ได้ต่อยอดในการพัฒนาความดีในรูปแบบของตัวเอง แบบไม่บังคับ หรือกดดัน จนบ่มเพาะกลายเป็นนิสัยใหม่ ที่สร้างความสุขได้แบบยั่งยืน
ความสุขเล็กๆ เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมที่เราอาศัยอยู่ให้งดงาม
จากประโยชน์ตนสู่ประโยชน์ส่วนรวม
ครูแตนเล่าให้ฟังว่า ที่โรงเรียนจะมีการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณธรรมในทุกวันสำคัญทางศาสนา วันพ่อ และวันแม่ ซึ่งในทุกๆ กิจกรรมครูแตนจะเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีส่วนร่วม แบ่งหน้าที่ในการช่วยจัดเตรียมงานและสถานที่ เพื่อบ่มเพาะนิสัยในการมีจิตสาธารณะ และรู้หน้าที่ของตนเอง
กิจกรรมทำบุญตักบาตรซึ่งจะจัดขึ้นในทุกๆ อาทิตย์เว้นอาทิตย์ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักเรียนชื่นชอบมากๆ เด็กจะเตรียมของมาทำบุญกันทั้งโรงเรียนทุกครั้ง
นั่นเป็นเพราะครูแตนจะนำของที่ได้รับบริจาคจากเด็กๆ ไปบริหารจัดการ โดยนำไปแจกจ่ายแก่โรงเรียนน้องๆ ที่อยู่รอบข้าง และสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ทำให้เด็กรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เขาร่วมกันทำ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การจัดกิจกรรมให้ได้ตักบาตรตามประเพณี เมื่อเด็กได้สัมผัสถึงความอิ่มเอมใจของการเป็นผู้ให้ เด็กย่อมอยากต่อยอดความดีนี้ด้วยตนเอง โดยที่ไม่ต้องให้ใครบังคับ
เมื่อถามถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากเข้าร่วมโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 ครูแตนเล่าให้ฟังว่า ไม่ใช่แค่การเรียนที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึงกว่า 70% เท่านั้น พฤติกรรมของนักเรียนก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาทั้งทางด้านความรู้และคุณธรรม
โลกไม่ให้ช้ำ ธรรมไม่ให้ขุ่น
สร้างแรงบันดาลใจในชั่วโมงสุขจริงหนอ
ทุกวันศุกร์ ช่วงเช้าจะเป็นคาบจริยธรรมของแต่ละชั้นเรียน ซึ่งมีกิจกรรมสวดมนต์และนั่งสมาธิ เมื่อนักเรียนมีจิตใจสงบ ย่อมพร้อมที่จะเปิดรับ ซึมซับเรื่องราว และสิ่งที่ดีงามจากคนรอบข้าง ครูแตนจึงถือโอกาสต่อยอดด้วยการเพิ่มกิจกรรม “ชั่วโมงสุขจริงหนอ” ลงในคาบจริยธรรมประจำสัปดาห์
การได้แบ่งปันเรื่องราวดีๆ ของตนเอง หรือแม้แต่เรื่องราวดีๆ ที่ได้รับฟังมา ไม่ใช่แต่เฉพาะผู้ได้รับการแบ่งปันเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์ ในการได้เห็นเรื่องราวความดีของเพื่อน เพื่อมาสร้างแรงบันดาลใจของตัวเอง ผู้แบ่งปันย่อมได้ความฮึกเหิมและกำลังใจ เมื่อเห็นว่าเรื่องราวของตนเป็นประโยชยน์ต่อผู้อื่น
ผู้ให้ย่อมได้รับ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
จากภาระกลายเป็นหน้าที่
ไม่ใช่แค่นักเรียนที่ต้องการกำลังใจ และแรงบันดาลใจในการต่อยอดทำสิ่งที่ดีงาม คุณครูก็ไม่แตกต่างกัน คำชื่นชมจากท่านผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยแรงสนับสนุน ให้คุณครูทำโครงการนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนนั้น ทำให้คุณครูมีพลังใจ พร้อมจะร่วมมือ ร่วมใจ ประกอบกับผลงานที่ลงแรงไป ส่งผลให้นักเรียนได้รับรางวัลเป็นที่ประจักษ์ทั้งโรงเรียน ความวิตกกังวลถึงภาระต่างๆ ที่อาจจะเพิ่มขึ้นก่อนเริ่มโครงการฯ กลับกลายหายลับเข้ากลีบเมฆไปพร้อมกับเสียงสนับสนุน และความร่วมมือเข้ามาแทนที่
จาก ลองทำ ดู เพื่อ ลองธรรม ดู เกิดเป็นผลลัพธ์ที่นำมาซึ่งความอิ่มเอมใจ
ภาระ จึงกลายเป็นหน้าที่
แรงเสียดทานและเสียงคัดค้าน จึงกลายเป็นการร่วมมือด้วยความเต็มใจ
นำมาซึ่งความสุข และความเบิกบานในหัวใจของคุณครูทุกท่าน ผู้ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนความดีของโรงเรียนให้หมุนวนเหมือนวงล้อแห่งธรรม
10 พฤษภาคม 2568
20 เมษายน 2568
10 เมษายน 2568
30 มีนาคม 2568