ห้องเรียน แห่งการเรียนรู้

26 กุมภาพันธ์ 2563
  •    16,053

ห้องเรียน เป็นห้องสำหรับกิจกรรมการเรียน การสอน มีในสถาบันการศึกษาทุกประเภท ทั้งโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชน หน่วยงาน องค์กรทางศาสนาและผู้ช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม ห้องเรียนเป็นสถานที่ปลอดต่อการรบกวนจากสิ่งต่าง ๆ ในขณะการเรียน การสอน

ห้องเรียนส่วนใหญ่จะมีกระดานขนาดใหญ่สำหรับผู้สอนหรือนักเรียนใช้เขียนร่วมกัน รูปแบบดั้งเดิมคือกระดานดำ แต่ปัจจุบันได้ลดน้อยลงไป แทนที่โดยฟลิปชาร์ต ไวต์บอร์ด ห้องเรียนอาจมีโทรทัศน์ แผนที่ ปากกา หนังสือ โปรเจกเตอร์

 

เคล็ดลับปรับห้องเรียน แบบ BBL (Brain-based Learning)

การบริหารจัดการชั้นเรียน Classroom Tips


1.เตรียมปรับห้องเรียนใหม่ เคล็ดลับปรับห้องเรียน แบบ BBL (Brain-based Learning) เนื่องจากสภาพโรงเรียนในประเทศไทยส่วนมาก มักอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างรก ข้าวของที่สะสมไว้ในแต่ละปีมากขึ้นทุกวัน ดังนั้น โรงเรียนควรกำหนดวัน “Big Cleaning Day” (วันทำความสะอาดครั้งใหญ่) ทุกๆสองสามเดือน โดยกำหนดวันที่แน่นอน ให้คุณครู นักเรียน และผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการทำความสะอาดโรงเรียนด้วยถ้าโรงเรียนเปิดให้ดูงานด้วย และมีคนมาดูงานจำนวนมาก อาจต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้น

1.1.นักเรียนมีส่วนร่วม เปิดโอกาสให้นักเรียนช่วยกันทำความสะอาดและทาสีโต๊ะของตัวเองเพื่อลดภาวะของคุณครูและภารโรง การใช้กระดาษทรายขัดโต๊ะก่อนทาสี จะทำสีติดดีและดูเรียบร้อย
1.2.ทำความสะอาดพื้นห้องเรียน และบริเวณโรงเรียน
1.3.ทำความสะอาดโต๊ะเรียนของตัวเอง
1.4.เก็บสิ่งที่ไม่ได้ใช้ออกจากห้องเรียน

2.ปรับสีผนังห้องเรียน ห้องเรียนควรมีสีสันกระตุ้นสมอง ห้องเรียนส่วนใหญ่ในประเทศไทยแ ยังคงเป็นห้องเรียนเหมือนกับเมื่อ 100 ปีก่อน จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสีสันให้สอดคล้องกับยุคสมัย การใช้คู่สีที่เข้ากันจะทำให้ห้องดูสวยงาม แต่ที่สำคัญคือ ทำให้ห้องรู้สึกมีเอกภาพ เป็นระบบ ทำให้ครูสามารถควบคุมชั้นเรียนได้ง่าย
2.1.ใช้สีเดียวทั้งห้อง
2.2.เลือกทาสีเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งของห้อง
2.3.เลือใช้สองสี


สิ่งที่ไม่ควรทำ
1.ไม่ควรใช้สีสะท้อนแสง เพราะรบกวนสายตาของนักเรียน
2.ไม่ใช้สีโทนมืด หรือสีเข้ม เช่น ม่วง แดง น้ำเงิน ส้มเข้ม เป็นบริเวณกว้าง
3.ในห้องเรียนไม่ควรใช้สีเกิน 2 สี ถ้าใช้ให้เน้นสีอ่อน
4.อาคารไม้ไม่ควรใช้สีน้ำมัน (ที่เงาและทึบมืด) ทา เพราะจะทำให้ดูมืด อึดอัดและร้อน
5.พื้นห้องควรเป็นสีเรียบ ไม่ใช้กระเบื้องลาย เพราะจะทำให้ห้องดูไม่สงบรบกวนสมาธิ
6.หน้าต่างและประตูควรจะเป็นสีโทนเดียวกันหมด
7.ใช้สีที่ไม่มีสารตะกั่ว หรือสารปรอท และมีเนื้อสีที่สวยงาม ไม่หลุดร่อนเป็นผงเป็นฝุ่น (ควรใช้สีที่มีคุณภาพดี)

 

3.การปรับปรุงโต๊ะเรียนและเก้าอี้ โต๊ะเรียนและเก้าอี้ควรใช้สีโทนอ่อน เช่น เขียวอ่อน เหลืองอ่อน ชมพูอ่อน ฟ้าอ่อน หลีกเลี่ยงสีโทนเข้ม สีมืด เช่น น้ำตาล ดำ แดงเข้ม เขียวแก่ สีโทนเข้ม สีมืด ไม่ช่วยกระตุ้นสมอง ทำให้สมองปิดต่อการเรียนรู้
3.1.ด้านบนของโต๊ะและเก้าอี้ รองพื้นด้วยสีขาว แล้วทาสีทับด้วยสีโทนอ่อน เพื่อป้องกันการหลุดลอกและยืดอายุการใช้งาน
3.2.ที่พักเท้าของนักเรียน โต๊ะนักเรียนควรมีที่พักเท้าเพื่อลดความเครียดขณะนั่งเรียนหนังสือ
3.3.ขาโต๊ะและเก้าอี้ ใช้สีขาวทาบริเวณขาโต๊ะ และเก้าอี้ส่วนพนักพิงใช้สีเดียวกับที่นั่งจะช่วยให้ดูสวยงามมากขึ้น


4.การจัดโต๊ะเรียน การจัดโต๊ะเรียนที่ดี มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ต่อการสอนของคุณครู อย่างไรก็ตามลักษณะการจัดโต๊ะเรียนขึ้นอยู่กับวิธีการสอนที่คุณครูถนัดด้วยเช่นกัน
4.1.โต๊ะหน้ากระดาน วางโต๊ะหันหน้าเข้าหากระดาน อาจจะวางเป็นคู่ 2-2-2 หรือ 3-2-3 หรือ 2-3-2 ก็ได้ เหมาะสำหรับ การสอนที่ใช้กระดานดำเป็นหลัก
4.2.โต๊ะแบบกลุ่ม การวางโต๊ะเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 6 ตัว เหมาะสำหรับ การสอนที่เน้นให้เด็กลงมือทำกิจกรรมเองหรือเป็นกลุ่ม มีการอภิปรายสนทนา
4.3.โต๊ะแบบตัว U วางโต๊ะเป็นรูปตัว U และอาจเพิ่มโต๊ะตรงกลางตัว U ก็ได้ เหมาะสำหรับ การสอนที่จะเป็นต้องใช้กระดานดำ ไม่เน้นกิจกรรมกลุ่ม แต่ต้องการทำให้ห้องเรียนดูแปลกใหม่และน่าสนใจ ทำให้เด็กรู้สึกมีส่วนร่วม

 

จัดโต๊ะเรียนแบบไหนดี...

หลายโรงเรียนมีปัญหาเรื่องการจัดโต๊ะของนักเรียน ว่าจะจัดแบบไหนดี การจัดโต๊ะเรียนที่ดีมีผลต่อผลสัมฤทธิ์ในการสอนของครู แต่อย่างไรก็ตาม ลักษณะการจัดโต๊ะเรียนก็สะท้อนวิธีการสอนของครูด้วยเช่นกันครับ รวมถึงปัจจัยเรื่องจำนวนนักเรียนในห้องด้วยเป็นสำคัญ

แบบที่ 1 : เหมาะกับการสอนที่เน้นการใช้กระดาน การทดสอบ และการบรรยาย

 

 

แบบที่ 2 : เหมาะกับการเรียนการสอน ที่เน้นกิจกรรมกลุ่ม การลงมือปฏิบัติของนักเรียน

 

แบบที่ 3 : เหมาะกับการสาธิต / การอภิปราย

 

 

ข้อควรปฏิบัติและมารยาท ในการใช้ห้องเรียน ดังนี้

1. จัดเตรียมโต๊ะเก้าอี้ ดูความเรียบร้อย ให้คุณครู

2. ทำภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย เช่น การเข้าห้องน้ำ

3. เตรียมอุปกรณ์การเรียนของตนเอง ที่จำเป็นต้องใช้ให้พร้อม

4. ไม่ควรเดินลากเท้าเสียงดัง หรือพูดคุยเสียงดัง ในขณะอยู่ในห้องเรียนหรือบริเวณใกล้เคียง

5. วางรองเท้าที่ชั้นวางหรือในที่ที่จัดไว้ให้เรียบร้อย (จับวางด้วยมือ ชิดด้านในก่อน)

6. เปิดและปิดประตูเบาๆ

7. ควรยกโต๊ะ เก้าอี้ ด้วยความระมัดระวัง เบาๆ ไม่ลากโต๊ะ เก้าอี้ เมื่อจะเคลื่อนย้าย

8. นั่งในที่ของตน วางสิ่งของที่นำมาให้เป็นระเบียบ

9. ทำความเคารพคุณครู ด้วยความสุภาพ

10. เคารพและเกรงใจ ต่อคุณครูและเพื่อนร่วมชั้นเรียน โดยไม่ลุกเข้าออกบ่อย ๆ หรือเมื่อจะลุกควรแสดงความเคารพต่อคุณครู แล้วเลื่อนเก้าอี้เบา ๆ แล้วค่อยลุกออกไป

11. ทำความเคารพและกล่าวขอบคุณต่อคุณครู เมื่อเสร็จสิ้นการสอนหรือการบรรยาย

12. เก็บเก้าอี้ให้เป็นระเบียบเหมือนเดิม

13. เดินออกจากห้องเปิด-ปิดประตู ควรระวังอย่าให้มีเสียงดัง

14. หยิบรองเท้าจากชั้นวางมาใส่ด้วยมือ ไม่ใช่นิ้วเท้าคีบออกจากชั้นวาง

หมายเหตุ บางข้ออาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม

 

 

น่าเสียดายถ้าไม่รู้

- เข้าห้องให้ตรงเวลา จะลดการรบกวนผู้อื่น อันเกิดจากเสียงพูดคุยและเสียงเดิน

- หากไม่สบาย เช่น ไอหรือจาม ควรเตรียมหน้ากากอนามัยไว้สำหรับปิดปาก ปิดจมูก

- ควรระมัดระวังการนำสิ่งของที่มีเสียงดังเข้ามาในห้อง เช่น ถุงหิ้ว (พลาสติกที่มีเสียงดัง)

- ปลดปล่อยวางภารกิจอื่นๆ และทำอารมณ์ให้สบาย เบิกบาน แจ่มใส เพื่อพร้อมรับความรู้

- ตั้งใจเรียน จด จำ นำไปพิจารณาแล้วปฏิบัติตาม หากสงสัยให้ยกมือ ขออนุญาตถามคุณครู

 

 

ขอขอบคุณ

https://th.wikipedia.org/wiki/ห้องเรียน

เพจ BBL Brain-based Learning Thailand

https://www.kalyanamitra.org

 


  •    16,053